Difference between revisions of "Phishing"

From CMU ITSC Network
Line 9: Line 9:
 
<pre style="color: blue"> วิธีตรวจสอบ Phishing mail
 
<pre style="color: blue"> วิธีตรวจสอบ Phishing mail
 
* มักใช้ชื่ออีเมลที่คล้ายหรือใกล้เคียงกับชื่อขององค์กรนั้นๆ
 
* มักใช้ชื่ออีเมลที่คล้ายหรือใกล้เคียงกับชื่อขององค์กรนั้นๆ
* มีลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย
+
* มีลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย ควรตรวจสอบลิงก์ก่อนเปิดโดยนำเคอร์เซอร์ไปวางบนลิงก์ก็จะแสดง URL
 
* มีการร้องขอข้อมูลสำคัญ เช่น username และ password หรือรายละเอียดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
 
* มีการร้องขอข้อมูลสำคัญ เช่น username และ password หรือรายละเอียดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
* เนื้อหาแจ้งเตือนว่าด่วน เร่งรีบ สำคัญมาก หลอกล่อให้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบ
+
* มีเนื้อหาแจ้งเตือนว่าด่วน เร่งรีบ สำคัญมาก หลอกล่อให้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบ
 
* ภาษาผิดหลักไวยกรณ์ คล้ายกับใช้โปรแกรมแปลภาษา </pre>
 
* ภาษาผิดหลักไวยกรณ์ คล้ายกับใช้โปรแกรมแปลภาษา </pre>
 
=== Phishing Web ===
 
=== Phishing Web ===
 
Phishing Web คือ การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกเอาข้อมูลเช่น username และ password ของผู้เสียหาย ถ้าหากผู้เสียหายไม่ระมัดระวังก็อาจจะกรอกข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้ผู้ไม่ประสงค์ดีโดยที่ไม่รู้ตัว โดย Phishing Web มักจะเป็นลิงก์ปลอมที่แนบมากับอีเมล เมื่อผู้เสียหายกดเปิดก็จะเข้าสู่ Phishing Web (เว็บไซต์ปลอมที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง) ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายกรอก username และ password หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ทันที โดยทั้งหมดทำผ่านหน้าเว็บที่คล้ายของจริง ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีเป็นคนตั้งขึ้นมา <br/><br/>
 
Phishing Web คือ การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกเอาข้อมูลเช่น username และ password ของผู้เสียหาย ถ้าหากผู้เสียหายไม่ระมัดระวังก็อาจจะกรอกข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้ผู้ไม่ประสงค์ดีโดยที่ไม่รู้ตัว โดย Phishing Web มักจะเป็นลิงก์ปลอมที่แนบมากับอีเมล เมื่อผู้เสียหายกดเปิดก็จะเข้าสู่ Phishing Web (เว็บไซต์ปลอมที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง) ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายกรอก username และ password หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ทันที โดยทั้งหมดทำผ่านหน้าเว็บที่คล้ายของจริง ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีเป็นคนตั้งขึ้นมา <br/><br/>
 
รูปที่ 2 ตัวอย่างของ Phishing Web ที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง <br/><br/> ภาพจาก : https://www.facebook.com/informationcovid19 <br/> [[File:Phishing02.png|link=]] <br/><br/>
 
รูปที่ 2 ตัวอย่างของ Phishing Web ที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง <br/><br/> ภาพจาก : https://www.facebook.com/informationcovid19 <br/> [[File:Phishing02.png|link=]] <br/><br/>
 +
=== วิธีตรวจสอบ Phishing ===
 +
# ตรวจสอบอีเมลผู้ส่ง เมื่อได้รับอีเมลที่ต้องการให้เราคลิกลิงค์บางอย่าง ควรตรวจสอบอีเมลผู้ส่งว่าเป็นอีเมลปลอมหรือไม่ ซึ่งอีเมลจาก Phishing ส่วนใหญ่จะใช้อีเมลที่สะกดใกล้เคียงกับอีเมลของผู้ใช้จริง หรืออาจใช้อีเมลโดเมนที่ดูไม่เป็นทางการ
 +
# ตรวจสอบชื่อผู้รับ อีเมลที่เราได้รับ หากมาจากองค์กรหรือธนาคาร ควรระบุชื่อผู้รับให้ชัดเจน ถ้าชื่อเราไม่ตรงหรือไม่ระบุชื่อผู้รับอาจแปลได้ว่าเป็นอีเมลปลอมจากมิจฉาชีพ
 +
# ตรวจสอบ URL ของลิงก์ หากในอีเมลมีลิงค์ให้คลิก ควรตรวจสอบ URL ของลิงค์ก่อนเปิด โดยนำเคอร์เซอร์ไปวางบนลิงค์ก็จะแสดง URL ขึ้นมา หรือคลิกขวาแล้วกดคัดลอกที่อยู่ลิงค์แล้วไปวางที่อื่น ก็จะเจอ URL หรือเมื่อคลิกลิงค์แล้วให้ตรวจสอบ URL บนเว็บเบราเซอร์ดูว่าเป็นโดเมนของเว็บไซต์จริงหรือไม่
 +
# มีการร้องขอแบบแปลกๆ อีเมลปลอมมักหลอกให้ผู้เสียหายดาวโหลดโปรแกรมเพื่อติดตั้ง หรือเปิดไฟล์ต่าง เช่น  ไฟล์ PDF ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี โดยอาจหลอกว่าเราได้มีการสั่งซื้อสินค้าบางอย่าง ให้เปิดดูใบเสร็จที่แนบมาเป็นไฟล์ PDF เป็นต้น ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้สั่งซื้อสินค้าใดๆ ก็ไม่ควรเปิด หรือถ้ามีการสั่งซื้อสินค้า การจะตรวจสอบไฟล์แนบควรมั่นใจว่ามีการติดตั้งโปรแกรมป้องกัน Malware เอาไว้ในเครื่อง
 +
# มีการขอข้อมูลส่วนตัวผ่านอีเมล โดยปกติองค์กรที่มีชื่อเสียงและดำเนินงานอย่างโปร่งใส มักไม่มีนโยบาลการขอข้อมูลส่วนตัว เช่น password หมายเลขบัตรประชาชน ผ่านทางอีเมลโดยไม่แสดงตัวตนชัดเจน หากมีอีเมลลักษณะนี้เข้ามาให้สงสัยได้เลยว่าเป็น Phishing

Revision as of 03:57, 13 July 2021

รู้จัก Phishing

Phishing เป็นคำเปรียบเทียบที่พ้องเสียงมาจาก Fishing ที่แปลว่า การตกปลา โดยในการตกปลานั้น ต้องมีเหยื่อล่อให้ปลามาติดเบ็ด จึงเปรียบเทียบถึงการสร้างสถานการณ์โดยการส่งข้อความ อีเมล หรือเว็บไซต์ปลอม เพื่อเป็นเหยื่อล่อให้ผู้เสียหายเข้ามาติดเบ็ด และหลอกล่อผู้เสียหายให้กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ หรือ ส่งโปรแกรมให้ติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์ตามที่ผู้ไม่ประสงค์ดีต้องการ ซึ่งการทำ Phishing ที่พบเห็นบ่อยในประเทศไทยมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ

  1. Phishing Mail
  2. Phishing Web

Phishing mail

Phishing Mail เป็นการส่งอีเมลหลอกลวง โดยจะเริ่มต้นจากข้อความอีเมลที่ดูเหมือนกับว่าเป็นการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการและมีความเร่งด่วนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานไอทีของมหาวิทยาลัย ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต หรือหน่วยงานอื่นๆ อันเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เป็นต้น ซึ่งข้อความการแจ้งเตือนดังกล่าวจะทำให้ผู้เสียหายมีความตื่นตระหนกและเกรงกลัว หากผู้เสียหายหลงเชื่อได้กรอกข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่แนบมากับลิงค์ในอีเมลหลอกลวงเหล่านี้ เช่น username และ password สำหรับการเข้าระบบขององค์กร ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ หรือหลอกให้ติดตั้ง Malware จากการคลิกลิงก์ ซึ่งจะทำผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถโจรกรรมข้อมูลสำคัญ เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว นำข้อมูลที่ได้ไปปลอมแปลง ส่งผลให้ผู้เสียหายและองค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียง หากผู้ไม่ประสงค์ดีมีการนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้งานอย่างผิดกฎหมาย ผู้เสียหายอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้

 โปรดระวังและตระหนักอยู่เสมอว่า สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่มีนโยบายให้ผู้ใช้งานเข้าไปยืนยันความถูกต้องในการใช้บริการสารสนเทศของมหาวิทยาลัยผ่านทางลิงก์ที่แนบมาในอีเมลหรือช่องทางอื่นๆ ทุกช่องทาง 

รูปที่ 1 ตัวอย่างของ Phishing mail อ้างเป็นหน่วยงานจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Phishing01.png

 วิธีตรวจสอบ Phishing mail
* มักใช้ชื่ออีเมลที่คล้ายหรือใกล้เคียงกับชื่อขององค์กรนั้นๆ
* มีลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย ควรตรวจสอบลิงก์ก่อนเปิดโดยนำเคอร์เซอร์ไปวางบนลิงก์ก็จะแสดง URL
* มีการร้องขอข้อมูลสำคัญ เช่น username และ password หรือรายละเอียดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
* มีเนื้อหาแจ้งเตือนว่าด่วน เร่งรีบ สำคัญมาก หลอกล่อให้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบ
* ภาษาผิดหลักไวยกรณ์ คล้ายกับใช้โปรแกรมแปลภาษา 

Phishing Web

Phishing Web คือ การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์จริง เพื่อหลอกเอาข้อมูลเช่น username และ password ของผู้เสียหาย ถ้าหากผู้เสียหายไม่ระมัดระวังก็อาจจะกรอกข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้ผู้ไม่ประสงค์ดีโดยที่ไม่รู้ตัว โดย Phishing Web มักจะเป็นลิงก์ปลอมที่แนบมากับอีเมล เมื่อผู้เสียหายกดเปิดก็จะเข้าสู่ Phishing Web (เว็บไซต์ปลอมที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง) ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายกรอก username และ password หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ทันที โดยทั้งหมดทำผ่านหน้าเว็บที่คล้ายของจริง ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีเป็นคนตั้งขึ้นมา

รูปที่ 2 ตัวอย่างของ Phishing Web ที่ทำเลียนแบบเว็บไซต์ของจริง

ภาพจาก : https://www.facebook.com/informationcovid19
Phishing02.png

วิธีตรวจสอบ Phishing

  1. ตรวจสอบอีเมลผู้ส่ง เมื่อได้รับอีเมลที่ต้องการให้เราคลิกลิงค์บางอย่าง ควรตรวจสอบอีเมลผู้ส่งว่าเป็นอีเมลปลอมหรือไม่ ซึ่งอีเมลจาก Phishing ส่วนใหญ่จะใช้อีเมลที่สะกดใกล้เคียงกับอีเมลของผู้ใช้จริง หรืออาจใช้อีเมลโดเมนที่ดูไม่เป็นทางการ
  2. ตรวจสอบชื่อผู้รับ อีเมลที่เราได้รับ หากมาจากองค์กรหรือธนาคาร ควรระบุชื่อผู้รับให้ชัดเจน ถ้าชื่อเราไม่ตรงหรือไม่ระบุชื่อผู้รับอาจแปลได้ว่าเป็นอีเมลปลอมจากมิจฉาชีพ
  3. ตรวจสอบ URL ของลิงก์ หากในอีเมลมีลิงค์ให้คลิก ควรตรวจสอบ URL ของลิงค์ก่อนเปิด โดยนำเคอร์เซอร์ไปวางบนลิงค์ก็จะแสดง URL ขึ้นมา หรือคลิกขวาแล้วกดคัดลอกที่อยู่ลิงค์แล้วไปวางที่อื่น ก็จะเจอ URL หรือเมื่อคลิกลิงค์แล้วให้ตรวจสอบ URL บนเว็บเบราเซอร์ดูว่าเป็นโดเมนของเว็บไซต์จริงหรือไม่
  4. มีการร้องขอแบบแปลกๆ อีเมลปลอมมักหลอกให้ผู้เสียหายดาวโหลดโปรแกรมเพื่อติดตั้ง หรือเปิดไฟล์ต่าง เช่น ไฟล์ PDF ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี โดยอาจหลอกว่าเราได้มีการสั่งซื้อสินค้าบางอย่าง ให้เปิดดูใบเสร็จที่แนบมาเป็นไฟล์ PDF เป็นต้น ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้สั่งซื้อสินค้าใดๆ ก็ไม่ควรเปิด หรือถ้ามีการสั่งซื้อสินค้า การจะตรวจสอบไฟล์แนบควรมั่นใจว่ามีการติดตั้งโปรแกรมป้องกัน Malware เอาไว้ในเครื่อง
  5. มีการขอข้อมูลส่วนตัวผ่านอีเมล โดยปกติองค์กรที่มีชื่อเสียงและดำเนินงานอย่างโปร่งใส มักไม่มีนโยบาลการขอข้อมูลส่วนตัว เช่น password หมายเลขบัตรประชาชน ผ่านทางอีเมลโดยไม่แสดงตัวตนชัดเจน หากมีอีเมลลักษณะนี้เข้ามาให้สงสัยได้เลยว่าเป็น Phishing