Difference between revisions of "Loadbalance with Keepalived Nginx"

From CMU ITSC Network
Line 88: Line 88:
  
 
ทดสอบการทำงาน Loadbalance ของ Nginx โดยเข้าผ่าน Virtual IP (10.0.0.1) <br>
 
ทดสอบการทำงาน Loadbalance ของ Nginx โดยเข้าผ่าน Virtual IP (10.0.0.1) <br>
หรือใช้คำสั่ง (Shell) $ while true; do (date +%r); curl 10.110.0.123; sleep 1; done <br>
+
หรือใช้คำสั่ง (Shell) $ while true; do (date +%r); curl 10.0.0.1; sleep 1; done <br>
 
[[File:NginxBrowser.gif]] [[File:NginxCURL.gif]] <br>
 
[[File:NginxBrowser.gif]] [[File:NginxCURL.gif]] <br>
 
<br>
 
<br>

Revision as of 07:40, 11 June 2020

Introduction

  • การทำ High availbility จะต้องมีส่วนประกอบที่สามารถเปลี่ยนเส้นทางงานและจะต้องมีกลไกในการตรวจสอบความล้มเหลวและการเปลี่ยนระบบหากตรวจพบการหยุดชะงัก โดยจะใช้ระบบของ Keepalived
  • Keepalived สามารถใช้ในการตรวจสอบบริการของระบบและการ Failover เปลี่ยนเส้นทางอัตโนมัติไปยังอีกระบบหนึ่งที่สแตนบายหากเกิดปัญหา โดยจะกำหนดค่าที่อยู่ Floating IP หรือ Virtual IP ที่สามารถย้ายระหว่างตัวโหลดบาลานซ์สองตัว แต่ละตัวจะถูกกำหนดค่าให้แยกทราฟฟิกระหว่างเว็บเซิร์ฟเวอร์แบ็กเอนด์สองตัว เมื่อตัวหลักหยุดทำงาน Floating IP จะย้ายไปยังตัวที่สองโดยอัตโนมัติเบื่อให้บริการต่อ
    • การตั้งค่า Priority เป็นตัวกำหนดว่าจะให้เครื่องไหนเป็น Master หรือ Backup
- MASTER-MASTER คือ มีค่า Priority เท่ากัน เมื่อเครื่องที่ 1 พังจะย้ายไปเครื่องที่ 2 และเมื่อเครื่องที่ 1 ดีการทำงานก็จะยังคงอยู่ที่เครื่องที่ 2
- MASTER-BACKUP คือ มีค่า Priority ต่างกัน เมื่อเครื่องที่ 1 พังจะย้ายไปเครื่องที่ 2 และเมื่อเครื่องที่ 1 ดีการทำงานก็จะย้ายไปเครื่องที่ 1 แทน

Loadbalance 640-100.gif

Lab setup

ในการทำแลปนี้จะเป็นการทำแบบ MASTER-MASTER และเมื่อเครื่องที่ 1 ขัดข้องระบบก็จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องที่ 2 แทน โดยมีอีกส่วนทีให้เช็คค่าด้วยคือ เมื่อระบบยังดีแต่ nginx ล่มหรือขัดข้องให้ทำการเปลี่ยนเครื่องด้วยเหมือนนัน

Network Scenario

  1. Server 1 : 10.0.0.2
  2. Server 2 : 10.0.0.3
  3. Virtual IP : 10.0.0.1


Step 1 - Install Packages

$ sudo apt-get install haproxy
$ sudo apt-get install keepalived
$ sudo apt-get install nginx


Step 2 - Setup HAProxy

ทำการแก้ไขไฟล์ Haproxy configuration ใน /etc/haproxy/haproxy.conf ของเครื่อง server ทั้งสองให้เหมือนกัน

$ sudo vi /etc/haproxy/haproxy.conf
listen stats
        bind *:8090
        mode http
        stats enable
        stats refresh 10s
        stats show-node
        stats auth admin:pass
        stats uri /haproxy-stats

frontend http-in
        bind *:8080
        default_backend server

backend server
        balance roundrobin
        option  tcp-check
        option  log-health-checks
        server  sirapat-lb1 10.0.0.2:80 check port 80
        server  sirapat-lb2 10.0.0.3:80 check port 80

กำหนดค่าให้เริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่อระบบรีบูต

$ sudo systemctl enable haproxy

ทำการรีสตาร์ท haproxy เพื่อให้ค่า config ล่าสุดทำงาน

$ sudo service haproxy restart

ตรวจสอบการทำงานโดยเข้าไปที่ http://10.0.0.1:8090/haproxy-stats โดยจะให้ทำการ login ส่วน username และ password ตามที่ได้ตั้งไว้ใน config (stats auth) ในที่นี้เป็น username: admin, password: pass
เมื่อถูกต้องจะได้หน้าต่างดังนี้
HAProxy.jpg

Step 3 - Setup Nginx

ทำการแก้ไขไฟล์ nginx configuration ใน /etc/nginx/nginx.conf ของเครื่อง server ทั้งสองให้เหมือนกัน

$ sudo vi /etc/nginx/nginx.conf
stream {
        upstream ubuntu {
                server 10.0.0.10:80;
                server 10.0.0.11:80;
        }
        server {
                listen 80;
                proxy_pass ubuntu;
        }
}

ทดสอบการทำงาน Loadbalance ของ Nginx โดยเข้าผ่าน Virtual IP (10.0.0.1)
หรือใช้คำสั่ง (Shell) $ while true; do (date +%r); curl 10.0.0.1; sleep 1; done
NginxBrowser.gif NginxCURL.gif

Step 4 - Setup Keepalived

ทำการแก้ไขไฟล์ keepalived configuration ใน /etc/keepalived/keepalived.conf ของเครื่อง server

$ sudo vi /etc/keepalived/keepalived.conf
  • อัพเดทค่าที่ไฮไลท์ด้วยระบบของคุณ

Server 1

vrrp_script chk_haproxy {
    script "killall -0 haproxy"
    interval 2
    weight 2
}

vrrp_script chk_nginx {
    script "/usr/bin/killall -0 nginx"
    interval 2
}

vrrp_instance VI_1 {
    state MASTER
    interface ens3
    virtual_router_id 101
    priority 110
    advert_int 1
    authentication {
        auth_type PASS
        auth_pass 1111
    }
    unicast_src_ip 10.0.0.2
    unicast_peer {
        10.0.0.3
    }
    virtual_ipaddress {
        10.0.0.1
    }
    track_script {
        chk_haproxy
        chk_nginx
    }
}

Server 2

vrrp_script chk_haproxy {
    script "killall -0 haproxy"
    interval 2
    weight 2
}

vrrp_script chk_nginx {
    script "/usr/bin/killall -0 nginx"
    interval 2
}

vrrp_instance VI_1 {
    state MASTER
    interface ens3
    virtual_router_id 101
    priority 110
    advert_int 1
    authentication {
        auth_type PASS
        auth_pass 1111
    }
    unicast_src_ip 10.0.0.3
    unicast_peer {
        10.0.0.2
    }
    virtual_ipaddress {
        10.0.0.1
    }
    track_script {
        chk_haproxy
        chk_nginx
    }
}

กำหนดค่าให้เริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่อระบบรีบูต

$ sudo systemctl enable keepalived

ทำการรีสตาร์ท keepalived เพื่อให้ค่า config ล่าสุดทำงาน

$ sudo service keepalived restart

เพิ่มเติม  : ส่วนกำหนดเงื่อนไขเมื่อ nginx หรือ haproxy เกิดขัดข้องให้ทำการเปลี่ยนเส้นทางการทำงานไปยังอีกเครื่อง

vrrp_script chk_haproxy {
    script "killall -0 haproxy"
    interval 2
    weight 2
}

vrrp_script chk_nginx {
    script "/usr/bin/killall -0 nginx"
    interval 2
}
    track_script {
        chk_haproxy
        chk_nginx
    }


อ้างอิง

https://www.nginx.com/blog/tcp-load-balancing-udp-load-balancing-nginx-tips-tricks/
https://tecadmin.net/setup-ip-failover-on-ubuntu-with-keepalived/
https://medium.com/@xmikex83/how-to-setup-an-highly-available-load-balancer-with-keepalived-and-haproxy-on-ubuntu-18-04-8bab7b77f715
https://dasunhegoda.com/how-to-setup-haproxy-with-keepalived/833/